เพชรร่วงคืออะไร เลือกซื้ออย่างไรให้ได้เพชรที่ถูกใจ

หลายคนคงคุ้นเคยกับการเลือกซื้อเครื่องประดับเพชรตามร้าน หรือในห้างสรรพสินค้า แต่ในบางครั้งอาจไม่มีแบบที่ถูกใจ บางทีเจอแบบที่ใช่ แต่คุณภาพของเพชรยังไม่ตอบโจทย์ บ้างก็ราคาเกินงบที่ตั้งไว้

บทความนี้ Master Jewelry มีทางออกมานำเสนอค่ะ คำตอบของปัญหาทั้งหลายแก้ไขได้ด้วย “เพชรร่วง”

“เพชรร่วง” ฟังแล้วหลายคนคงไม่คุ้นหูใช่ไหมคะ แต่เดียวก่อนค่ะ ชื่อประหลาด ๆ แบบนี้นี่แหล่ะที่จะทำให้คุณได้เครื่องประดับในแบบที่ชื่นชอบ ได้เพชรในคุณภาพที่ต้องการ และยังราคาสบายกระเป๋าตามงบที่ตั้งไว้ อ่านแล้วเริ่มสนใจเจ้าเพชรร่วงขึ้นมาแล้วใช่ไหมคะ งั้นเราไปทำความรู้จักกันเลย

เพชรร่วง (Loose Diamonds)

เป็นชื่อเรียกเพชรที่ผ่านการเจียระไนแล้ว แต่ยังไม่ได้นำไปขึ้นตัวเรือน ซึ่งจะมีตั้งแต่ขนาดเล็ก ๆ ไปจนถึงขนาดใหญ่ แล้วเจ้าเพชรร่วง จะช่วยแก้ปัญหาอย่างไร และเอาไปทำอะไรได้บ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ซื้อเพชรร่วงไว้ขึ้นตัวเรือนทำเครื่องประดับ

สิ่งแรกที่ช่วยแก้ไขทุกปัญหาด้านบน คือนำเพชรร่วงไปขึ้นตัวเรือนค่ะ เราสามารถเลือกซื้อเพชรร่วงได้แถบทุกขนาด ทุกรูปทรง ทุกสี (เพชรมีตั้งแต่ใสไม่มีสี ไปจนถึงหลากสีสัน) รวมถึงความสะอาดของเพชร (ตำหนิ) โดยนำไปใส่กับตัวเรือนของเครื่องประดับในแบบที่เราชื่นชอบ

ซื้อเพชรร่วงเพื่อลงทุนเก็งกำไร

ใช่ค่ะฟังไม่ผิด เพชรมีราคากลาง ที่ซื้อขายเหมือนกันทั่วโลก โดยจะใช้สิ่งที่เรียกว่า “Rapaport” เป็นตัวกำหนดราคาของเพชร โดย Rapaport จะมีการ update ราคาทุกสัปดาห์ (แต่ไม่ได้หมายความว่า ราคาเพชรจะเปลี่ยนแปลงทุกสัปดาห์นะคะ)

จากที่อ่านมา คงทำให้เพชรร่วงน่าสนใจขึ้นมาแล้วใช่ไหมคะ แล้วเราจะมีวิธีเลือกซื้อเพชรร่วงกันอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

รูปทรงเพชร (Shape)

เรามักจะคุ้นเคยกับเพชรทรงกลมใช่ไหมคะ ซึ่งเพชรทรงกลมนี้เป็นที่นิยมของท้องตลาด เนื่องจากเป็นรูปทรงที่มีการเล่นไฟที่ดีที่สุด ทำให้เพชรรูปทรงนี้มีราคาตลาดที่สูง เมื่อเทียบกับเพชรรูปทรงอื่น

แต่จริง ๆ แล้ว เพชรมีหลายรูปทรงให้เราเลือก ไม่ว่าจะเป็น รูปไข่ มาคีย์ ทรงหยดน้ำ ทรงหัวใจ ฯลฯ ซึ่งเพชรที่มีรูปทรงนอกเหนือจากทรงกลม เราจะเรียกว่า เพชรแฟนซี (Fancy Shapes) ซึ่งเพชรแฟนซีจะมีราคาตาม Rapaport ที่ถูกกว่าเพชรกลม เมื่อเปรียบเทียบกันที่ น้ำหนัก (Carat) สี (Color) และความสะอาด (Clarity) ในเกรดเดียวกัน

เพชรที่มีใบ Certificate

การที่เราเลือกซื้อเพชรที่มีใบ Certificate นั้นถือเป็นเครื่องการันตีได้อย่างแน่นอน ว่าเพชรของเราเป็นเพชรแท้จากธรรมชาติ แต่สิ่งที่เราจะได้นอกเหนือไปจากนั้นคือ เราจะทราบข้อมูลของเพชรเม็ดที่เราครอบครองอยู่ เรียกได้ว่า ใบ certificate เปรียบเสมือนบัตรประชาชนของเพชรนั่นเอง

เนื่องจากเพชรที่มีขนาดใหญ่ ความสะอาดสูง ใสไม่มีสี จะมีราคาสูงตามไปด้วย (โดยปกติเรานิยมใช้เพชรที่มีใบ certificate ตั้งแต่ 30 ตังค์ขึ้นไป) ทำให้การซื้อเพชรที่มีใบ certificate มีความจำเป็นอย่างมาก

ดังนั้นเราควรมีความรู้ ความเข้าใจในการอ่านใบ certificate เพราะองค์ประกอบแถบทุกส่วนของเพชร ส่งผลต่อราคาเพชรทั้งสิ้น ถึงแม้จะเป็นเพชรที่มี รูปทรง สี ความสะอาด และน้ำหนักเท่ากัน ก็ไม่ได้หมายความว่า ราคาเพชรจะเท่ากันเสมอไป

ความน่าเชื่อถือ (Reliability)

ปัจจุบัน มีร้านขายเพชรร่วงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าออนไลน์ โดยการซื้อเพชรร่วงไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ เพราะเราสามารถตรวจสอบได้ว่า เพชรที่เรากำลังจะซื้อนั้น เป็นเพชรที่วิเคราะห์ออกมาจาก Lab ที่เราต้องการจริงหรือไม่

ยกตัวอย่าง เช่น เราต้องการซื้อเพชรที่มี Certificate จาก Lab ของ GIA เราเพียงแค่เข้าไปในเว็บไซต์ของ GIA ใส่ข้อมูลของเพชร เช่น เลขที่ใบ Certificate เพียงแค่นี้ เราก็จะสามารถเช็คได้แล้วว่า เพชรเม็ดนั้นมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่

งบประมาณ (Budget)

เราสามารถกำหนดสเปคของเพชรที่ต้องการ ตามงบประมาณที่เราวางไว้ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราทราบขนาดของเพชรคร่าว ๆ ว่าหากเราตั้งงบราคาและสเปคเพชรที่เราต้องการไว้เท่านี้ จะได้เพชรกี่กะรัต (Carat) หรือ ถ้าเราต้องการเพชร 1 กะรัต จะได้เพชรสเปคแบบไหนในราคาที่ตั้งไว้ ทำให้งบประมาณไม่บานปลาย และยังได้ในแบบที่ชื่นชอบด้วยค่ะ

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ การเลือกซื้อเพชรร่วง ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจใช่ไหมคะ แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะเป็นการซื้อแหวนเพชรเม็ดงามจากร้าน หรือจะตามหาเพชรร่วงในแบบที่คุณชื่นชอบ ก็ทำให้คุณได้พบกับความสุขไม่ต่างกันกับการได้ครอบครองเจ้าอัญมณีเลอค่าชนิดนี้ค่ะ