Last updated: 4 ต.ค. 2562 | 3718 จำนวนผู้เข้าชม |
แบบแหวนเพชร หรือแบบแหวนแต่งงานมีความสำคัญอย่างยิ่ง เป็นสิ่งแรก ๆ ที่คุณต้องพิจารณาในการซื้อแหวนเพชรหรือแหวนแต่งงาน
เนื่องจากแบบแหวนจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณต้องซื้อเพชรรูปทรงไหน ซึ่งแบบแหวนเพชรหรือแหวนแต่งงานก็มีเยอะด้วยค่ะ
และอาจจะมีคำถามเช่นนี้ดังขึ้นในหัวคุณตอนซื้อแหวน
“ฝังเพชร หรือชูเพชร ดีกว่าน้าาา???”
คุณกำลังเลือกไม่ถูกใช่มั้ยคะว่า ระหว่างแหวนเพชรแต่งงานแบบฝัง กับแบบชูเพชร จะเลือกแบบไหนดี ?
หรือคุณกำลังมองหาคำอธิบายง่าย ๆ ของแบบแหวนต่าง ๆ เช่น แหวนเพชรล้อม (Halo Setiing) แหวนเพชรฝังจิกไข่ปลา (Pavé Setting) หรือแหวนฝังหนามเตย (Prong Setiing)
และบทความนี้คือคำแนะนำง่าย ๆ ที่ Master Jewelry รวบรวมให้สั้นที่สุดเกี่ยวกับแบบแหวนเพชรหรือแหวนแต่งงาน ว่ามีกี่แบบ และแต่ละแบบแตกต่างกันยังไง มีข้อดี-ข้อควรระวังยังไงบ้าง
แหวนเพชรแบบฝัง
แหวนเพชรแบบฝังมีหลายรูปแบบ และแต่ละแบบก็มีวิธีการฝังที่ต่างกันออกไป เช่น
ฝังหุ้ม (Bezel Setting)
จะใช้เทคนิคการฝังโดยหุ้มล้อมตัวเพชรทั้งเม็ด หรือล้อมแค่บางส่วนของเพชร และยืดขึ้นมาเหนือตัวเรือนเพื่อให้มองเห็นเพชรได้ชัดเจนมากขึ้น
ฝังหนีบแบบปกติ (Classic Tension Setting)
จะใช้โลหะหนีบดันตัวเพชรไว้สองข้าง เพื่อเป็นการยึดเพชรไว้ด้วยตัวเรือน
ฝังหนีบแบบฝังหุ้ม (Tension-Style Bezel Setting)
จะใช้โลหะหนีบโค้ง หุ้มไปตามส่วนของเพชรทั้งเม็ด หรือแค่บางส่วน การฝังลักษณะนี้จะมั่นคงกว่าการฝังหนีบแบบปกติค่ะ
ฝังสอดหรือฝังล็อค (Channel Setting)
เหมาะสำหรับเพชรเม็ดเล็ก ๆ ช่วยป้องกันไม่ให้เพชรหลุดได้ง่าย โดยใช้วิธีฝังสอดเพชรเรียงกันเป็นแนวยาวติด ๆ กัน และล๊อคไว้ด้วยขอบของตัวเรือน
ฝังจิกไข่ปลา (Pavé Setting)
ใช้เทคนิคการฝังเพชรเรียงกันเป็นแพ แล้วยึดเพชรด้วยตัวเรือนส่วนที่เชื่อมจากกระเปาะ การฝังแบบนี้จะทำให้เพชรดูระยิบระยับ มีประกายมากมากขึ้นค่ะ
ฝังบาร์ (Bar Setting)
เป็นการฝังเพชรที่คล้ายกับการฝังสอด แต่ต่างกันตรงที่มีโลหะที่เรียกว่าบาร์ขั้นกลางระหว่างเพชรแต่ละเม็ดค่ะ
ฝังเหยียบหรือฝังหน้าจม (Flush Setting)
ใช้เทคนิคฝังเพชรแบบเจาะรูที่ตัวเรือน และฝังเพชรให้จมลงไปในตัวเรือน การฝังแบบนี้ไม่เหมาะกับอัญมณีเนื้ออ่อน เพราะอาจทำให้เนื้ออัญมณีแตกได้ในระหว่างการกดเข้าไปในตัวเรือน
แหวนเพชรแบบชู (Cathedral Setting)
เป็นแบบคลาสสิคที่สุด ในแบบแหวนแต่งงานทั้งหมด
แหวนเพชรแบบชู จะใช้วิธีการฝังแบบหนามเตย แบบล้อม หรือแบบหนีบก็ได้ ต่างกันตรงที่วิธีตกแต่งในส่วนโลหะที่ชูเพชรขึ้นมา ยิ่งชูให้สูงก็ยิ่งส่งให้เพชรดูเม็ดใหญ่ เปล่งประกาย และสวยงามยิ่งขึ้น
การฝังแบบหนามเตย คือการใช้โลหะลักษณะเป็นก้านปลายงอเชื่อมต่อขึ้นมาจากกระเปาะฐานเพชร ให้สูงโค้งเข้าหากันเพื่อยึดเพชรเอาไว้ค่ะ
รูปแบบของหนามเตยจะมีทั้งแบบ กลม แหลม แบน หรือตัว V ขึ้นอยู่กับรูปทรงของเพชร โดยจำนวนของหนามมีตั้งแต่ 3 4 หรือ 6 ก้าน โดยแบบ 4 ก้าน จะได้รับความนิยมมากที่สุด แต่แบบ 6 ก้านจะให้ความแข็งแรงมากที่สุดค่ะ
หลังจากรู้จักแบบแหวนทั้ง 2 แล้ว แล้วแบบแหวนแต่งงานแบบไหน ที่เหมาะกับคุณหล่ะ
แหวนเพชรแบบฝัง
ฝังหุ้มหรือฝังหนีบ
ข้อดี
ข้อเสีย
ฝังสอดหรือฝังล็อค
ข้อดี
ข้อเสีย
ฝังจิกไข่ปลา
ข้อดี
ข้อเสีย
ฝังบาร์ (Bar Setting)
ข้อดี
ข้อเสีย
ฝังเหยียบหรือฝังหน้าจม
ข้อดี
ข้อเสีย
แหวนเพชรแบบชู
แหวนเพชรแบบชู ถือเป็นแหวนแต่งงานสุดคลาสสิค ที่เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการความโดดเด่นของเพชร ด้วยตัวเพชรที่ชูขึ้นมาทำให้แสงผ่านเข้าไปได้ดี เล่นแสง เล่นไฟ ระยิบระยับมากที่สุด
แต่ข้อเสียคือหน้าเพชรอาจเสียหายจากการกระแทก เพราะไม่มีตัวเรือนห่อหุ้ม นอกจากนี้เพชรอาจหลวมหรือหลุดได้ง่ายกว่าแบบฝังค่ะ
แนะนำว่าควรตรวจเช็คความแน่นหนาของเพชรเป็นประจำนะคะ
สรุป
ไม่มีแบบแหวนเพชรหรือแหวนแต่งงานแบบไหนที่โดดเด่นที่สุดหรอกค่ะ เพราะเป็นเรื่องของความชอบส่วนตัว
เราบอกได้แค่ว่า การเลือกแบบแหวนคือสิ่งแรก ๆ ที่คุณต้องตัดสินใจในการซื้อแหวนเพชรหรือแหวนแต่งงาน เพราะแบบแหวนจะเป็นสิ่งที่กำหนดดีไซน์และเพชรที่คุณเลือก
และที่สำคัญ สะท้อนถึงตัวตนของเจ้าสาวเช่นคุณค่ะ